โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรง ทำให้คนหรือสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคนี้ต้องตายด้วยความทุรนทุราย โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เรบีส์ไวรัส ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกระสุนปืน จะอยู่ในเซลล์ที่มีชีวิตเท่านั้น เมื่อออกมานอกร่างกายจะมีชีวิตได้ไม่นาน ถูกทำลายได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แสงแดด หรือในสภาพแห้งแล้ง ยาฆ่าเชื้อที่ใช้ได้ผลดี คือ ฟอร์มาลิน , 70 % แอลกอฮอล์ , ไลโซล , กรดหรือด่างอย่างแรง หรือ 10 % ไฮโปคลอไรท์ ( น้ำผสมคลอรีนไฮเตอร์ หรือคลอร็อก ในอัตราส่วน 1 ส่วนต่อน้ำ 9 ส่วน )
อาการโรคพิษสุนัขบ้าในสุนัข
แบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ แบบดุร้าย แสดงอาการชัดเจนและพบบ่อย และแบบซึมซึ่งแสดงอาการไม่ชัดเจน อาการของโรคมี 3 ระยะ คือ ระยะอาการเริ่มแรก สุนัขจะมีนิสัยแปลกไปจากเดิม ตัวที่เคยขลาดกลัวจะเข้ามา คลอเคลีย ตัวที่เคยเชื่องชอบเล่น จะหงุดหงิด หลบไปตามมุมมืด เงียบ กินอาหารและน้ำน้อยลง ระยะนี้มีอาการ 2 - 3 วัน จะเข้าสู่ระยะที่ 2 ระยะตื่นเต้น จะมีอาการทางประสาท มีความรู้สึกไวกว่าปกติ กระวนกระวาย หงุดหงิด ไม่อยู่นิ่ง กัดแทะสิ่งของ ตัวแข็ง ขากรรไกรแข็ง ปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล ม่านตาขยาย บางตัววิ่งพล่านไปทั่ว เมื่อพบสัตว์หรือคนขวางหน้าจะกัด ส่งเสียงเห่าหอน ในระยะที่แสดงอาการแบบซึมอาจไม่แสดงอาการเช่นนี้ แต่เมื่อถูกรบกวนอาจกัด ต่อมา กล้ามเนื้อจะเริ่มอ่อนแรงลง ทรงตัวไม่ได้ ล้มแล้วลุกไม่ได้ บางตัวชักกระตุก อาการระยะนี้พบได้ 1 - 7 วัน จึงจะเข้าระยะสุดท้าย ระยะอัมพาต เกิดอาการอัมพาตลามทั้งตัวเริ่มจากขาหลัง ต่อมากล้ามเนื้อคอจะเป็นอัมพาต กลืนอาหารไม่ได้ ระบบหายใจล้มเหลวและตายในที่สุด รวมระยะเวลาเริ่มแสดงอาการจนตายประมาณ 10 วัน
โรคลำไส้อักเสบติดต่อ หรือการติดเชื้อพาโวไวรัสในสุนัข
ไข้หัดสุนัข
ไข้หัดสุนัข หรือ canine distemper
การป้องกันไข้หัดสุนัข